 
            
              Viewtiful
            
            @ViewtifullWorld
Followers
                44
              Following
                611
              Media
                46
              Statuses
                2K
              
              
              Joined April 2024
            
            
           แนวคิดแบบนี้เกิดจากระบบที่พังมานานจนคนคิดว่ามันคือสัจธรรม พูดจากใจคนติด University of British Colombia แบบโง่ๆ มันไม่ควรต้องแลกสุขภาพกับการติดมหาลัยดีๆ แต่ทุกมหาลัยมันควรดีอยู่แล้ว มันควรเป็นที่เปิดให้คนเรียนรู้ ไม่ใช่ใส่กุญแจล็อกไว้ให้เข้าเฉพาะคนที่มีเงินเรียนพิเศษ 
           Work life balance ได้ไม่มีใครว่าหรอก แต่ถ้าอยากสอบติดมหาลัยดีๆ มันก็ต้องพยายามมากกว่าคนทั่วไป อยากทำงานดีๆเงินเดือนสูงๆ ก็ต้องเก่งต้องขยันกว่าคนทั่วไป เพราะงั้นไม่แปลกหรอก ที่พวกคนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มันจะชอบมาเป็น life coach ให้คนขยัน เพราะอิงจากตัวเองมา 
          
                
                3
              
              
                
                493
              
              
                
                316
              
             วัยรุ่นที่รู้จักก็อ้างแบบนี้เหมือนกัน อายุ 15/16 บอกนอนเยอะเกินแล้วจะมึน ต้องนอนน้อยๆ สรุปคือติดมือถือจ้ะ อยากเล่นมือถือให้นานที่สุด ถ้าเข้านอนไม่ให้เอามือถือเข้าไปไง สุดท้ายพอลองยึดมือถือช่วงวันหยุด นางทำอะไรเอ่ย นอนทั้งวันทุกวัน ไหนบอกนอนเยอะไม่ได้ 
           คนทั่วไปนอน 7-9 ชม. ต่อคืน แต่มีคนที่เป็น Short sleeper โดยธรรมชาติ นอนน้อยกว่า 6 ชม. ตั้งแต่วัยรุ่น ไม่ว่าจะวันทำงานหรือวันหยุด หลับปกติตลอดคืน ไม่ตื่นระหว่างคืน ตื่นแล้วสดชื่น ไม่มีง่วงช่วงกลางวัน 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             เราก็ไม่ใช่ด้อมส้ม แต่เป็นโหวตเตอร์ เราโหวตส้มเพราะนโยบายดังต่อไปนี้ - เบี้ยคนชรา - ภาษีมั่งคั่ง - ภาษีที่ดินนายทุนที่ทำเนียบปลูกกล้วย/มะนาว - สิทธิแรงงานทั้งหลาย - คืนอำนาจท้องถิ่น - น้ำประปาดื่มได้ คะแนนเราไปตามนโยบาย ใครทำออกมาแล้วยื่น/โหวตรับจริง เราพร้อมย้ายค่ายเสมอ 
           จากใจ อดีต ส้ม ที่ตาสว่าง และกลับใจ มาเล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่เธอ ตาสว่าง กลับใจ และขอเดินออกจากจักรวาลด้อมส้ม 
            
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             ของวางอุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 2 ชม. ถ้าเกินกว่านั้นต้องมีตู้แช่ที่ต่ำกว่า 5 เซลเซียส หรือตู้อบที่สูงกว่า 60 เซลเซียส ไม่งั้นโอกาสกินแบคทีเรียอันตรายมีสูงมากกกก 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             ไม่อยากว่าเลย เพราะเอาจริงๆ ในไทยแทบไม่มีคำว่า food safe อยู่จริง แค่ไปฟิตเนสทุกวันก็เดินผ่านร้าน Neta Grill ที่เอาซูชิปลาดิบมาวางบนโต๊ะหน้าร้านขาย ไม่มีตู้แช่เย็นใดๆ เดินเข้า Tops ขายไก่อบทั้งตัวที่วางแบบไม่มีเตาอุ่น วางเป็นวัน 🫠 ตามหลัก อย.ต้องลงนะ 
          
                
                1
              
              
                
                14
              
              
                
                7
              
             นิยายที่ “เลว“ คือนิยายที่บันเทิงล้วนๆ ไม่พอกพูนความรู้ อ่านแล้วได้แต่ความไร้สาระ ได้หนีโลก เทียบกันก็เหมือนซีรีส์ vs ละครตบตีผัวเมีย ที่ใส่วงเล็บก็เพราะนิยายที่เลวบริสุทธิ์แทบไม่มีอยู่จริงหรอก ทุกเรื่องราวย่อมแฝงข้อคิดในตัว ไม่ว่าจะเป็นข้อคิดที่เราชอบหรือไม่ชอบก็ตาม 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             โพสต์ก่อนปกป้องนิยาย โพสต์นี้ขอเสนออีกมุมเพื่อความเป็นธรรมว่าทำไมบางคนเหยียดนิยาย นิยายทุกเล่มมีค่าไม่เท่ากัน แนวคิดนีี้พูดถึงใน Don Quixote และในงานของ Orwell (เจ้าของ 1984) อยู่บ่อยๆ นิยายที่ดีคือนิยายที่อ่านแล้วเข้าใจโลกมากขึ้น อ่านแล้วเพิ่มพูนมุมมองต่อโลก (ต่อ) 
          
          
                
                1
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             ดูโพสต์มันต่อกันซิ อันนี้ด่าคนไม่มีอีกครึ่ง อันต่อมาคือคนที่ไม่มีอีกครึ่งจริงๆ หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นกลุ่มคนที่ถูกนโยบายนี้ของรัฐทิ้งไว้ข้างหลัง ทุกคนด่ากันคะนองปาก แต่ลืมไปเหรอว่ากี่ล้านคนในชาติไม่มีแม้เงินกินข้าวมื้อต่อไป กี่คนอดมาหลายมื้อแล้ว 
           คือมึง ... ขอทาน ยังต้องลงทุนเดินหากระป๋องเปล่าหรือแก้วเปล่าตามถังขยะเลยนะ ... มึงจะไม่คิดลงทุนส้นตีนอะไรเลยเหรอ? 
            
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             อารมณ์เหยียดมาเหยียดกลับ 555 แต่ปีนี้อ่านหลากหลายมาก มีทั้งวิทย์ สังคมศาสตร์ มานุษยวิทยา เรียงความ บันทึกสงคราม เศรษฐกิจ (เน้นไปทางข้อเสียของระบบทุนนิยมกินรวบตลาด) นิยายคลาสสิก นิยายอ่านเอามันส์ (AGGGTM ครบ 3 เล่ม) คนเรามันไม่จำเป็นต้องมีมิติเดียวนะ บางปีวิชาการ บางปีบันเทิงงี้ 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             นิยายอ่านแล้วสร้าง empathy (เห็นอกเห็นใจชาวบ้านเป็น) เพราะได้เห็นและเข้าใจมุมมองที่แตกต่าง เสริมสร้างจินตนาการ เพิ่มคลังศัพท์ ฯลฯ เล่มล่าสุดที่อ่านจบไป Dispossessed ของ Ursula Le Guin สำรวจสภาพสังคมในโลกที่ใช้ระบบสังคมนิยมแบบอนาธิปไตย ฟันธงว่าดีพวกนส.พัฒนาตัวเอง 100x 
          
              @wildberrytea11 หนังสือไรครับ ถามก่อน อ่านพวกนิยายแล้วอวดอ่านปีนึง 30-40 เล่มไม่เอานะ
            
          
                
                1
              
              
                
                36
              
              
                
                26
              
             ถ้าไม่มีกฎหมายควบคุมมันก็ไม่มีวันหายไป เพราะทุก 1 ปัญญาชนที่เห็นว่ามันสร้างขยะ จะมีอีกร้อยผู้บริโภคเสพติดการลุ้นโชค/พนัน/เสี่ยงดวง ที่อุดหนุนการตลาดแบบนี้ มันเพิ่มยอดขายจริงๆ 
           การสุ่มของนี่โคตรสร้างขยะเลย ไม่ใช่แค่ Goods ฝั่งญี่ปุ่น แต่ทุกประเทศทั่วโลก กล่องจุ่มเอย ของเล่นที่ต้องลุ้นว่าเราจะได้ตัวอะไรสีไหน เศษขยะเยอะมากกกกกๆๆๆ 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             เห็นแบบนี้แล้วอยากซื้อเสื้อแดงมาใส่ทุกวันเลย ปกติเป็นคนชอบสีดำ ชอบใส่เสื้อกล้ามสีดำสีพื้น ตอนนี้น่าจะต้องอัญเชิญสีมงคลจากแดนมังกรมาใส่ 🀄️🐲🐉🧧 
          
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             มีเพื่อนที่สมัยทำราชการ เป็นมะเร็ง เหตุผลที่สอบรรจุ จะเอาสวัสดิการ ไปเบิก ค่ายา รักษามะเร็ง แต่ยาบ้างตัวไม่ครอบคลุม แต่จ่ายค่าเพิ่ม เดือนละ 30,000 - 60,000 บาท 
           ทำเอกชนคือทั้งตัวเองทั้งคนในครอบครัวห้ามป่วยหนักก่อนตั้งตัวได้ ไม่งั้นคือล้มยาว ทำราชการคือห้ามตายก่อนได้สวัสดิการ ไม่งั้นที่เสียโอกาสใช้ชีวิตเพราะรับเงินน้อยๆในปีแรกๆคือเท่ากับ0 ใครจะแข็งแรงใน10ปีแรกให้ทำเอกชน ใครจะป่วยหนักใน10ปีแรกให้ทำราชการ 
          
                
                0
              
              
                
                1
              
              
                
                2
              
             นี่มีเพื่อนที่รีวิวหนังสือทุกอาทิตย์ แต่อ่านมั้ย ไม่ ก๊อปรีวิวคนอื่นมาสร้างภาพให้ดูเหมือนอ่านเพราะอยากดูคูลตามกระแส 🤦♀️ แต่เราอ่านเดือนละ 2-3 เล่ม ตอนตื่นกับก่อนนอน สมองมันหิวหน้ากระดาษจริงๆ แต่จะให้อ่าน 300 หน้าในวันเดียวคงยาก ยิ่งพวก genre วิทย์กับปรัชญายิ่งต้องค่อยๆ 
           คนที่ปกติอ่านนสเป็นกิจวัตรต่อให้ยุ่งกับงานประจำคนพวกนี้ก็จะแบ่งเวลามาอ่านหนังสือได้ค่ะ และกับบางคนอ่านแบบ bionic reading ได้เลยทำให้การอ่านนสเล่มละ 200-300 หน้าจบใน 1 วันไม่ใช่เรื่องยาก บางคนยุ่งมากก็ตั้งเกณฑ์ว่าอ่านวันละ 50-100 หน้าก็มี มันขึ้นอยู่กับว่าจะอ่านหรือไม่อ่านเท่านั้น 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             ซ้ำเติมอีก ยายเส้นเลือดตีบเพราะฝุ่น PM ที่นายทุนสร้าง คนชราที่มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุมีถึง 1.4 ล้านคนในไทย นี่คือกลุ่มที่จะถูกทอดทิ้งหากบังคับใช้ระบบ co-pay ถ้วนหน้า 
          
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             ลองคิดตาม สมมุติยายเส้นเลือดสมองตีบ ค่าผ่าตัดแสนห้า ถ้าจ่าย 1% ก็ 1,500 ดูไม่เยอะสำหรับบางคน แต่ยายได้เงินบำนาญคนชราแค่เดือนละ 600 แค่ประหยัดใช้ให้ถึงสิ้นเดือนว่ายากแล้ว ซ้ำยังต้องหาค่ารถไปโรงพยาบาล จะเอาที่ไหนไปจ่าย ต่อให้ 150 ก็ยังแพง ถ้ามี co-pay กี่คนจะต้องตาย 
           ระบบบัตรทองใกล้ล่มสลาย มีหลายท่านช่วยเสนอทางเลือก ส่วนตัวเคยเสนอให้มีการร่วมจ่าย โดยเริ่มต้นที่ 0.01-1% เพื่อให้คนไข้ปรับตัวได้ ไม่กระทบหนัก เช่น ค่ารักษาพยาบาลรวม 420 บาท ร่วมจ่าย 4 บาท วันนี้มีอีกท่านเสนอไอเดีย เก็บภาษีทำลายสุขภาพ 2% น่าสนใจ น่าจะนำมาใช้เป็นรูปธรรมได้จริง 
          
                
                1
              
              
                
                8
              
              
                
                2
              
             กลยุทธ์นี้เรียกว่า artificial scarcity หรือการจงใจสร้างสภาวะให้ดูเหมือนขาดแคลน ใครได้ไปรู้สึก exclusive รอบหน้าจะได้รีบแย่งกันซื้อมากขึ้นไม่ว่าจะตั้งราคาเท่าไร เป็นวิธีการหลอกให้เราบริโภคให้เร็วที่สุด จะได้ไม่มีเวลาคิดก่อนว่าที่จริงสินค้านี้ไม่จำเป็นต่อความสุขเราเลย 
           กุงง สินค้าพรีออเดอร์ทำไมเราต้องแย่งกันกด เขาไม่ได้ทำออเดอร์ตามจำนวนคำสั่งซื้อหรอหรือเขาทำสต๊อกมาแค่นั้น ในเมื่อสินค้ามันขายได้ทำไม ทำไม 
          
                
                0
              
              
                
                8
              
              
                
                3
              
             เพิ่มเติม ในความเป็นจริงไม่มีใครเก็บเต็มเม็ดแบบนี้ แต่มันกระจายความเสี่ยงได้ด้วยประกันสุขภาพ อย่างเรากับสามี ซื้อประกันคุ้มครอง 70 ล้าน OPD 1 แสน แม่ใช้ประกันสังคมบวกบัตรทอง แต่ถ้ามีอะไรเกินกว่านั้นจริงๆ เราก็จ่ายเสริมไหว นอกเหนือจากนี้เราก็เก็บ 15-20% ลงทุนเกษียณ เซฟหมด 
          
                
                1
              
              
                
                8
              
              
                
                17
              
             ชอบการเปรียบเทียบนี้ คนที่ปกติ ครอบครัวดี ฐานะดี การเงินคงที่ เวลาเริ่มวันก็จะเหมือนหอคอย Jenga อันแรก พร้อมรับปัญหา สู้ได้หลายตา ส่วนคนที่ซึมเศร้า ปัญหาแบ็คกราวด์รุมเร้า ก็เหมือนหอคอยที่สอง สะดุดนิดเดียวคือล้มระเนระนาด ปรี๊ดแตกง่าย ร้องไห้ง่าย หมดหวังเร็ว เพราะพื้นฐานคลอนแคลน 
          
                
                0
              
              
                
                1
              
              
                
                2
              
             อีกเหตุผลที่ควร��นับสนุนรัฐสวัสดิการและสังคมที่ทุกคนมีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม มีศักดิ์ศรีเสมอภาค เพราะถ้าวันนึงเรื่องนี้เกิดกับลูกเรา เราจะอยากให้ลูกเรามีชีวิตที่ดีกว่านี้มั้ย ถ้าใช่ งั้นพื้นฐานสังคมต้องดีกว่านี้ 
           ลูกมหาเศรษฐีถูกรพ.ทำพลาดสลับตัวตอนเป็นทารกแรกเกิด ถูกส่งไปอยู่ครอบครัวที่ยากจน ใช้ชีวิตแสนลำบากถึง 60 ปี มีอาชีพเป็นคนขับรถบันทุก ก่อนรู้ว่าจริงว่าที่แท้เขาเป็นลูกมหาเศรษฐี ซึ่งพ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนทารกอีกคนก็เติบโตในคฤหาสน์ กลายเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ 
            
                
                0
              
              
                
                0
              
              
                
                0
              
             
               
               
               
               
               
               
               
               
               
             
               
               
               
               
               
              